กรรมวิธีมากมายของประเพณีงานศพที่สืบทอดต่อกันมา

4

ในประเพณีทั้งหลายที่มีสืบทอดกันมา จะขอกล่าวถึงประเพณีการทำศพที่เห็นว่ามีกรรมวิธีมากมายซึ่งอาจมีหลาย  ๆ  คนที่ไม่เข้าใจและทำตาม ๆ กันมาโดยไม่ทราบที่มาที่ไปของการกระทำนั้น  ๆ คำว่า “ศพ“ มาจากภาษาสันสกฤต ศวหมายถึงร่างคนที่ตายแล้วหรือซากผี มีคติความเชื่อว่ามีวิญญาณอยู่ในร่างกายคน เมื่อสิ้นลมหายใจ จะครบอายุขัยเพราะแก่ชรา  โดยภัยเบียดเบียนหรือเหตุใดก็ตามที เมื่อตายแล้ววิญญาณมี 3 ดวง เมื่อตายแล้วดวงหนึ่งจะเข้าไปสิงอยู่ในป้ายวิณญาณสำหรับลูกหลานเซ่นไหว้ในเวลาอันสมควร อีกดวงหนึ่งไปอยู่ที่หลุมฝังศพ สำหรับลูกหลานเซ่นไหว้เช่นกัน  อีกดวงหนึ่งไปยังยมโลกเพื่อรับรางวัลในบุญหรือรับโทษในบาปที่ตนก่อ อย่างไรก็ตามคนส่วนมากเชื่อกันว่าคนที่ตายไปแล้วนั้นตายแต่ร่างกายมีอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ตายแต่เปลี่ยนร่างเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เรียกกันว่า ผี เป็นอมนุษย์มีทั้งผีดีและผีร้ายผีชั้นสูงที่เรียกกันว่าผีฟ้าที่เชื่อกันว่าอยู่บนสวรรค์ผีที่อยู่ในเมืองมนุษย์ ถ้าอยู่ตามหุบห้วยป่าดง เช่น เทพารักษ์เจ้าป่า เจ้าทุ่ง ถ้าอยู่ประจำท้องถิ่น สำหรับบ้านเรือนจะมีพระภูมิเจ้าที่ ผีเหย้าผีเรือน ผีปู่ย่า ตายาย ดังนั้นการทำศพจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับผีเกี่ยวกับผู้ตายจึงต้องมีพิธีกรรมเพื่อป้องกันผีไม่ให้มาทำคนเป็นเดือดร้อน

การอาบน้ำศพ คือการอาบน้ำชำระศพให้สะอาดเมื่ออาบน้ำแล้วต้องหวีผมหวีที่ใช้นั้นเมื่อเสร็จแล้วต้องหักทิ้ง ใช้ผ้าขาวนุ่งให้ศพโดยเอาชายพกไว้ข้างหลังเมื่อนุ่งห่มเช่นนี้แล้วให้นุ่งห่มตามธรรมดาทับอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นปริศนาธรรมอธิบายได้ว่าคนเราเกิดมาตายแล้วเกิดใหม่ ทนทุกขเวทนาเวียนว่ายตายเกิดไม่จบสิ้น เมื่ออาบน้ำนุ่งผ้าหวีผมให้ศพเรียบร้อยแล้วจะต้องปิดหน้าศพ การปิดหน้าศพใช้ขี้ผึ้งหนาประมาณครึ่งนิ้ว กว้างยาวขนาดหน้าของศพ แผ่ปิดหน้าเหมือนปิดด้วยหน้ากากในราชสำนักถ้าเป็นพระบรมศพพระเจ้าแผ่นดินจะใช้แผ่นทองปิดพระพักตร์ นอกจากนี้มีกรวยดอกไม้ ธูปเทียน ใช้ดอกไม้หนึ่งดอกเทียนหนึ่งเล่มใส่กรวยใบตองให้ศพพนมมือถือไว้ เพื่อนำไปไหว้พระจุฬามณีบนสวรรรค์ความเชื่อถือของคนแต่ก่อนซึ่งถือเป็นประเพณีสืบต่อกันมา ถ้าเอาความเห็นของคนถือเป็นประเพณีสืบต่อกันมาถ้าเอาความเห็นเป็นการเชื่อถือกันอย่างเหลวไหลไม่มีเหตุผล ทั้งนี้เพราะเอาของใหม่ไปวัดของเก่าความเชื่อถือของคนในสมัยใดก็ย่อมต้องเป็นไปตามความต้องการของคนในสมัยนั้นเพราะจารีตประเพณีที่เกิดขึ้นต้องมีเหตุผลที่ถือกันว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมจารีตประเพณีนั้นจะเสื่อมสลายไปหรือไม่อยู่ที่การแก้ไขให้เหมาะและแก้ไขเปลี่ยนแปลงพอกพูนกันเรื่อยมานับได้หลายชั่วอายุคนจนเกิดเป็นจารีตประเพณีในทุกวันนี้